ด้วยความที่มีเพื่อนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ที่วิทยาเขตเทคนิค
ขอนแก่น(ไทย-เยอรมัน)ด้วยกัน เมื่อไกลโพ้น ในช่วงเวลาปิดเทอมกลางภาค
ก็จะเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนสลับกันไป ครั้งมีโอกาสนั่งรถโดยสาร
จากจังหวัดขอนแก่น ผ่านวนอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวเพื่อที่จะไปยังอำเภอหล่มเก่า
จังหวัดเพชรบูรณ์ช่วงเดือนตุลาคม ปลายฤดูฝน ด้วยที่เราไม่ค่อยได้เดินทางไปไหนไกลๆบ้าน
ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา พอรถผ่านอำเภอชุมแพไป พนักงานเดินตั๋วรถ จะเดินแจก
ถุงพลาสติกเพื่อไว้รองเวลาทีจะอาเจียนเพราะต่อไปจะขึ้นภูเขาสูงและคดเคี้ยวตลอดการเดินทาง
ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้น พอผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ กรมป่าไม้ รถยนต์โดยสารจะทำ
ความเร็วได้เพียงแค่คนเดิน จึงได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ของทิวสนสามใบบนเทือกเขาของ
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตลอดจนป้ายประกาศเตือนข้างถนน “ระวังช้างข้ามถนน”
ยิ่งทำให้เกิดจินตนาการถึงความที่เป็นป่าสมบูรณ์ และน่าค้นหาเสียเหลือเกิน เส้นทางบางช่วง
ก็จะมีกองหินเลื่อนลงมาปิดกั้นผิวจราจร ผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ชายก็จะลงจากรถพากันไป
ช่วยกันขนทั้งก้อนหินและกองดินออกไป จากนั้นต้องทำการพันโซ่ที่ล้อรถยนต์เพื่อช่วย
ไม่ให้ลื่นไถล และช่วยตะกุยผ่านบริเวณที่ดินเปียกแฉะได้ ยังกับรู้ว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของผู้โดยสาร
ที่ใช้เส้นทางนี้สัญจรไปมาในช่วงฤดูฝน แต่ความสวยงามและน่าตื่นเต้นตลอดเส้นทางผ่าน
ทำให้ลืมเวลาที่ผ่านไปร่วม 4 ชม.ในสมัยก่อน
|
|
 |
 |
ปัจจุบันจากสภาพถนนที่ดีมากการบำรุงรักษาและป้องกันที่ดีจากภาครัฐ และวนอุทยานแห่งชาติ
น้ำหนาวจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น การเดินทางได้รับความสะดวกและรวดเร็ว
มากกว่าแต่ก่อน มีการจัดเตรียมที่พักให้กับนักท่องเที่ยวได้มาพักค้างแรมในบริเวณที่ทำการของ
อุทยานฯ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวของทุกปีจะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ด้วยขีดจำกัดของทางอุทยานฯ
ทำให้ที่พักและบริเวณกางเต๊นซ์นอน เต็มหรือล้นมาจนถึงไหล่ทางหลวงในช่วงปีใหม่ของทุกปี
ทำให้เราเกิดความรู้สึกอยากจะหาพื้นที่ไว้รองรับหรือบริการนักท่องเที่ยวขึ้นมา ผนวกกับกระแสการ
ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เที่ยวชมความสมบูรณ์ของป่าเขาในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกำลังได้รับความนิยม
อย่างสูง เช่นอุทยานแห่งชาติเขาค้อ, อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดเพชรบูรณ์,อุทยานแห่งชาติ
ภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย และอุทยานแห่งชาติถ้ำผาพวง, อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในรัศมี 100 กิโลเมตร จากอำเภอน้ำหนาว ท่ามกลางภูมิศาสตร์ที่
สวยงามนี้ ควรจัดหาแหล่งที่พักรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรม และศึกษาพันธุ์พืชไม้ผลเมืองหนาว
โดยไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ เพราะที่นี้หนาวเย็นตลอดทั้งปีเช่นกัน จึงคิดที่จะเลือกทำเล บริเวณนี้เป็น
ที่ทำสวนไม้ผลเมืองหนาว ที่เคยตั้งใจแต่นานมา
|
|
มากกว่าที่ตั้งใจทีแรกแต่ก็จำเป็น จึงมองหาที่เพิ่มที่ติดถนน
มีไฟฟ้า น้ำประปา ไม่นานก็สมหวังมีคนมาติดต่อขายสวนมะขามขนาด 5 ไร่
หลังป้าย บอกตำบลโคกมน เป็นที่เนินเขามองเห็นภูผาจิตฝั่งจ.ชัยภูมิ
ลมเย็นสบาย จึงตัดสินใจซื้อ และเริ่มลงมือปลูกกระท่อมไม้ขึ้นหนึ่งหลัง
ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พอจะเสร็จก็เลยมองไกล
ไปจนถึงวัยพักผ่อนหรือเกษียณตัวเอง เลยตั้งชื่อว่า ให้เข้าอารมณ์ว่า |
|
 |
 |
ชรา ชาเร่ต์ (Chala’s Chalet)
ซึ่งมีความหมายสองภาษา คือหน้าไทย ท้ายฝรั่ง สรุปว่า เป็นกระท่อมบนเขาของผู้ชรา
นั่นเอง ปลูกหนึ่งหลังแล้วเสร็จ พอพักพวกมาสองครอบครัวก็ไม่พอ ต้องนอนเต๊นกัน
จึงมองหาช่องทางอื่นว่าถ้าเราปลูกไว้สักจำนวนหนึ่งแล้วเริ่มชักชวนให้คนอื่นๆได้มาพักบ้าง
คงจะเข้าท่าที คิดไปแต่ยังหาเงินไม่ได้อยู่ดี มีเพื่อนมาเยี่ยมเยือนเรื่อยๆเข้า คงจะไม่เหงาแน่
แต่ถ้าหารายได้มาบำรุงรักษาบ้าน เงินเดือนคนเฝ้าและพืชพันธุ์ที่เรามีอยู่แล้วน่าจะดี จึงปลูกสร้าง
กระท่อมขนาดกะทัดรัดและกลมกลืนกับป่าเขาเพิ่มเติม มีสิ่งอำนวยความสะดวกบ้างเล็กน้อย เช่น
ชุดเครื่องนอน,ห้องน้ำ
พอสมควร ในส่วนอุปกรณ์เครื่องครัวจะไม่อนุญาต ให้ประกอบอาหาร โดยทางเราบริการจัดทำ
ให้ตามคำสั่งล่วงหน้า พร้อมร้านกาแฟ ที่ทางไร่เราปลูกเองไว้บริการต้อนรับ
พร้อมผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ
ในราคาคนท้องถิ่นทำเอง
|
|
|
